มีคำกล่าวว่า “รถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นที่มักมาพร้อมภาระ” หากจะมองกันตามจริงก็คงเป็นเช่นนั้น เพราะรถเป็นพาหนะที่ทำให้ชีวิตเราลงตัวในหลายเรื่องมากขึ้น แต่ก็มีสิ่งที่จะต้องรับผิดชอบมากขึ้นด้วย ทั้งเรื่องผ่อนชำระทุกเดือน ทั้งเรื่องการจ่ายประกันภัยรถประจำปี และยังต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเรื่องการตรวจซ่อมบำรุงรถยนต์ในทุก ๆ ส่วนอีกด้วย เรียกว่ามีอะไรที่ต้องให้คิดให้ทำอยู่เสมอจริง ๆ
สำหรับระบบกลไกการขับเคลื่อนรถยนต์ ส่วนหนึ่งที่หากมีปัญหาขึ้นมาก็สร้างความหนักใจให้เจ้าของรถเสมอก็คือ ระบบเกียร์ เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและยังเกี่ยวพันกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากด้วย การตรวจสอบระบบการทำงานของเกียร์อยู่เสมอจึงเป็นเรื่องมองข้ามไม่ได้ เกียร์รถเรามีปัญหาหรือไม่ ถึงเวลาที่เราจะต้องซ่อมหรือยัง มาดูวิธีการอ่านสัญญาณอาการต่าง ๆ กัน
มีการกระตุกเวลาเข้าเกียร์ D หรือเกียร์ R
อาการเกียร์กระตุกแบบนี้ มักเกิดขึ้นจากการออกรถในขณะที่เครื่องยนต์ยังไม่พร้อม คือ เครื่องยนต์ยังเย็นเกินไป หรือตัวเครื่องยนต์มีความร้อนในระดับหนึ่งแล้ว แต่ในส่วนของน้ำมันเกียร์ยังเย็นอยู่ ก็จะเกิดอาการแบบนี้เช่นกัน นอกจากนั้นกรณีที่น้ำมันเกียร์มีความร้อนสูงเกินไปก็ทำให้เกียร์กระตุกได้เหมือนกัน
สำหรับการแก้ไขแนะนำว่าให้ทำการตรวจเช็กระดับและคุณภาพของน้ำมันเกียร์ เวลาเอารถไปเช็กเครื่องยนต์ก็อย่าลืมให้ช่างช่วยดูในส่วนนี้ด้วย ถ้าน้ำมันเกียร์ลดลงเยอะก็ให้เติมหรือถ้าเสื่อมสภาพก็ให้เปลี่ยนใหม่ ก็จะลดปัญหาตรงนี้ได้
รถไม่ออกตัว ทั้ง ๆ ที่เข้าเกียร์แล้ว
เวลาเข้าเกียร์เดินหน้า (เกียร์D) หรือเกียร์ถอยหลัง (เกียร์R) ไปแล้วและรถไม่ออกตัวตาม ตรงนี้เป็นสัญญาณว่าเกียร์กำลังมีปัญหา ส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่จอดรถทิ้งไว้นานเกินไป ใครที่ในระยะหลังไม่ค่อยได้ใช้รถก็ต้องระวังในส่วนนี้ไว้ อาจเกิดปัญหานี้ขึ้นได้ ซึ่งถ้ารถไม่ได้ขับนาน ๆ ก็จะทำให้ระบบสูบฉีดน้ำมันเกียร์ทำงานผิดปกติและส่งผลต่อการออกตัวของรถที่ไม่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนเกียร์ได้นั่นเอง
สำหรับรถยนต์ใหม่ก็ยังไม่ค่อยน่าหนักใจเท่าไหร่ สามารถแก้ไขด้วยการนำรถออกใช้งานบ้าง และปรับระดับน้ำมันเกียร์ให้เหมาะสมก็จะลดอาการเหล่านี้ลง แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้งานมานานขับเกิน 1 แสนกิโลเมตรขึ้นไปแล้ว อาการแบบนี้จะน่ากังวลมาก เพราะอาจจะถึงขั้นต้องยกชุดเกียร์ใหม่ทั้งระบบ ซึ่งแต่ถ้าต้องเปลี่ยนชุดเกียร์ใหม่นี้อาจจะหนักหนากว่าที่จะรับมือไหวก็ได้ จึงต้องระวังให้ดี เพราะเคสนี้ประกันภัยรถก็ช่วยคุณไม่ได้ด้วย
เกียร์มีจังหวะการเปลี่ยนไม่ปกติ
ถ้าคุณเปลี่ยนเกียร์แล้วรู้สึกว่าเกียร์มีจังหวะการเปลี่ยนเร็วไปบ้างในบางครั้ง หรืออาจจะช้าไปบ้างในบางครั้ง คือจับจังหวะได้ว่าไม่ค่อยปกติ แบบนี้ก็เป็นสัญญาณว่าเกียร์มีปัญหาเช่นกัน ปัญหานี้ในรถบางรุ่นที่มีสายเกียร์ มักจะเกิดจากสายเกียร์ของรถที่มีการปรับตั้งค่าไม่ถูกต้อง และถ้าเป็นในรุ่นที่เกียร์ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าก็จะเกิดจากระบบควบคุมส่วนกลางทำงานผิดปกติ
ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ หากเป็นรถที่มีสายเกียร์ก็ปรับตั้งค่าสายเกียร์ใหม่ รถที่ใช้เกียร์ไฟฟ้าเองก็เช่นกันต้องตั้งค่าระบบคุมส่วนกลางใหม่ แต่ก็จะต้องมีการเช็กระดับน้ำมันเกียร์ร่วมด้วย บางครั้งมีการรั่วซึมจึงทำให้ระบบควบคุมส่วนกลางทำงานผิดปกติไปนั่นเอง
นี่คือสัญญาณความผิดปกติต่าง ๆ ของระบบเกียร์ ถ้าคุณพบก็ให้แก้ปัญหาตามนี้ได้เลย อย่าปล่อยไว้ เพราะเกียร์ก็เป็นกลไกสำคัญของรถ หากเสียหายไปก็ล้วนมีค่าใช้จ่ายและที่สำคัญยังทำให้การขับขี่เกิดอันตรายมากขึ้นและไม่ปลอดภัยด้วย ยังไงมีรถก็ควรดูแลให้ดี และจะยิ่งดีถ้าคุณมีประกันภัยรถไว้เคียงคู่ ทุกการเดินทางจะได้เบาใจได้มากยิ่งขึ้น